ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท ? พร้อมข้อดีและข้อจำกัดแต่ละแบบ

เมื่อพูดถึงความปลอดภัยบนท้องถนน ประกันภัยรถยนต์คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการชนแบบมีคู่กรณี หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังนั้น การทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้จึงเป็นเรื่องของผู้ขับขี่ทุกคน โดยเฉพาะในยุคที่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้
แต่คำถามที่หลายคนยังสงสัย คือ ประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบต่างกันอย่างไร มาทำความเข้าใจอย่างละเอียดไปพร้อมกัน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกประกันรถยนต์ได้อย่างมั่นใจและตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้งานรถของคุณมากที่สุด !
ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท ? เจาะลึก 5 ประเภทหลัก พร้อมข้อดี-ข้อจำกัด
ประกันภัยรถยนต์ในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก โดยแต่ละประเภทมีระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับลักษณะการใช้งาน สภาพรถ และความเสี่ยงที่เจ้าของรถต้องการรับมือ ดังนี้
1. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
เป็นประกันภัยรูปแบบที่ให้ความคุ้มครองครบถ้วนที่สุด ครอบคลุมทั้งกรณีชนแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี (เช่น ชนเสา ชนกำแพง) รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ไปจนถึงความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- ข้อควรพิจารณา : เบี้ยประกันภัยสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น รวมถึงมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นที่ละเอียด จึงจำเป็นต้องอ่านสัญญาอย่างรอบคอบ
- เหมาะสำหรับ : รถใหม่ รวมถึงรถที่มีอายุไม่เกิน 5-7 ปี หรือผู้ที่ต้องการความคุ้มครองรอบด้าน
2. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
คุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ในเรตที่ถูกกว่า แต่จำกัดเฉพาะอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี และคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้
- ข้อควรพิจารณา : ไม่คุ้มครองกรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี และไม่ครอบคลุมอุบัติเหตุบางกรณีที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้
- เหมาะสำหรับ : รถอายุ 5-10 ปี หรือผู้ใช้รถที่ขับขี่ระมัดระวัง ต้องการลดค่าเบี้ยประกันภัยแต่ยังคงคุ้มครองในกรณีสำคัญ
3. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
คุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณี ชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงรถหายและไฟไหม้ ด้วยราคาเบี้ยประกันภัยที่ประหยัดกว่าชั้น 2+
- ข้อควรพิจารณา : ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถผู้ทำประกัน และไม่คุ้มครองอุบัติเหตุทั่วไป
- เหมาะสำหรับ : รถอายุ 10 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ใช้รถไม่บ่อย และมีที่จอดรถปลอดภัย
4. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
คุ้มครองความเสียหายต่อรถตัวเองจากอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี และคุ้มครองชีวิต-ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เบี้ยประกันภัยราคาประหยัด
- ข้อควรพิจารณา : ไม่คุ้มครองกรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี รวมถึงไม่คุ้มครองรถหายและไฟไหม้
- เหมาะสำหรับ : รถอายุ 10 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่ต้องการความคุ้มครองพื้นฐานในราคาประหยัด
5. ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
เบี้ยประกันภัยถูกที่สุด แต่จะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเท่านั้น
- ข้อควรพิจารณา : ไม่คุ้มครองรถตัวเอง ไม่ว่าจะรถหาย ไฟไหม้ หรืออุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี
- เหมาะสำหรับ : รถอายุ 15 ปีขึ้นไป รถที่ใช้งานน้อย หรือใช้เฉพาะในพื้นที่จำกัด

เคล็ดลับการทำประกันรถยนต์ให้คุ้มค่า ไม่เสียผลประโยชน์
หลังจากได้รู้ว่าประกันภัยรถยนต์มีกี่แบบ หลายคนอาจตัดสินใจได้แล้วว่าประเภทไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้รถของตนเองมากที่สุด แต่นอกจากนี้ เรายังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมที่จะช่วยให้การทำประกันภัยคุ้มค่า ทั้งช่วยลดค่าเบี้ยฯ และเพิ่มโอกาสในการเคลมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น !
ติดกล้องหน้ารถ ช่วยให้เคลมง่าย และประหยัดเบี้ยประกันภัยได้ถึง 10%
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีคำสั่งนายทะเบียนที่ 8/2560 กำหนดให้บริษัทประกันภัยสามารถให้ส่วนลดเบี้ยประกันรถยนต์ได้ในอัตรา 5-10% ของเบี้ยประกันภัยสุทธิ สำหรับรถที่ติดตั้งกล้องบันทึกภาพ (CCTV) ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญกรณีเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้เคลมง่ายขึ้น
มีประวัติดี ไม่เคยเคลม มีสิทธิ์ลดเบี้ยประกันภัยในปีถัดไป
ผู้ที่มีประวัติขับขี่ดี ไม่เคยเคลมตลอดปีที่ผ่านมา มักได้รับส่วนลดเบี้ยประกันภัยในปีถัดไป หรือได้รับสิทธิพิเศษจากบริษัทประกันภัย ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก
เลือกซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์ มีผลต่อเบี้ยประกันภัย
แผนประกันภัยส่วนใหญ่มักกำหนดค่าเบี้ยฯ ที่แตกต่างกันระหว่างการเลือกซ่อมอู่ทั่วไปกับซ่อมศูนย์บริการ หากเลือกซ่อมอู่ ค่าเบี้ยฯ จะถูกกว่า แต่หากเน้นคุณภาพอะไหล่และมาตรฐานการซ่อม ควรเลือกซ่อมศูนย์ แม้ค่าเบี้ยฯ สูงกว่าเล็กน้อยแต่ถือว่าคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
ระบุชื่อผู้ขับขี่ชัดเจน ลดความเสี่ยงในการเคลม และช่วยลดค่าเบี้ยประกันภัย
การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเคลมผิดเงื่อนไข ทั้งยังทำให้ได้ส่วนลดค่าเบี้ยฯ เพิ่ม เพราะบริษัทประกันภัยสามารถประเมินความเสี่ยงจากประวัติผู้ขับขี่ได้
กำหนดค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ลดเบี้ยประกันภัยได้
การเลือกกำหนดค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) หมายถึง การที่ผู้เอาประกันภัยยินยอมรับผิดชอบค่าเสียหายบางส่วนด้วยตนเองในแต่ละครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดเบี้ยประกันภัยลงได้ โดยอัตราส่วนลดจะขึ้นอยู่กับจำนวนค่าเสียหายส่วนแรกที่เลือกและเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย โดยทั่วไป ยิ่งเลือกจำนวนค่าเสียหายส่วนแรกสูง เบี้ยประกันภัยก็จะยิ่งลดลง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มีประวัติขับขี่ดีหรือใช้รถไม่บ่อย และต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันภัย
เมื่อเข้าใจแล้วว่าประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท และแต่ละแบบเหมาะกับใคร การเลือกประกันจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงพิจารณาจากลักษณะการใช้งานรถ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณ ก็สามารถเลือกประกันที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความคุ้มครองและความคุ้มค่าได้อย่างมั่นใจ
แต่สำหรับใครที่ยังลังเลว่าควรเลือกประกันชั้นไหนดี หรือไม่แน่ใจว่าแบบไหนคุ้มครองครอบคลุมที่สุด การเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์จากหลากหลายบริษัทก่อนตัดสินใจ คือทางเลือกที่จะช่วยให้คุณประหยัดได้มากกว่า เลือกดูแผนประกันที่ใช่ได้ที่ MeeDee แพลตฟอร์มรวบรวมแผนประกันจากหลากหลายบริษัทชั้นนำ พร้อมระบบเปรียบเทียบที่ใช้งานง่าย ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเน้นราคาย่อมเยา หรือคุ้มครองจัดเต็ม ก็สามารถเลือกได้อย่างอิสระ กรอกรายละเอียดรถยนต์ของคุณบนหน้าเว็บไซต์เพื่อเช็กราคากับเราได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
- ติดกล้องหน้ารถ ลดเบี้ยประกันได้ถึง 10% จริงหรือ?. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.antifakenewscenter.com/การเงิน-หุ้น/ติดกล้องหน้ารถ-ลดเบี้ยประกันได้ถึง-10-จริงหรือ/.



พูดคุยกับที่ปรึกษามืออาชีพที่คุณไว้วางใจ
ด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของเรา การเลือกสิ่งต่างๆ จึงไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน.
มีคำแนะนำเฉพาะสำหรับคุณ
รับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของคุณ
ให้คำตอบที่ชัดเจนและเจาะลึก
รับคำอธิบายที่ครอบคลุมและช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณไว้วางใจ
รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงในวงการประกันภัย
มีคำแนะนำเฉพาะสำหรับคุณ
รับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของคุณ
ให้คำตอบที่ชัดเจนและเจาะลึก
รับคำอธิบายที่ครอบคลุมและช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณไว้วางใจ
รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงในวงการประกันภัย