ทำไมต้องทำประกันรถยนต์ คำถามที่เจ้าของรถทุกคนควรรู้คำตอบ

ทำไมต้องทำประกันรถยนต์ ตอบด้วยข้อเท็จจริงแบบชัดเจน

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าเราจะขับรถอย่างระมัดระวังที่สุดก็ตาม อีกทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่แค่ตัวรถ แต่ยังอาจกระทบต่อค่าใช้จ่ายและความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งจากสิ่งที่กล่าวมาจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องทำประกันรถยนต์เอาไว้ และเพื่อให้ทุกคนเล็งเห็นถึงความสำคัญในการวางแผนกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เราจะพาไปเจาะลึกถึงความสำคัญของการทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจกัน 

ทำไมต้องทำประกันรถยนต์ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากกว่าการใช้จ่าย ?

หลายคนอาจมองว่าการทำประกันรถยนต์เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพราะหากขับรถอย่างระมัดระวังมากพอก็อาจไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประกันรถยนต์เปรียบได้กับการลงทุนเพื่อความมั่นคง ทั้งในแง่ของชีวิต ทรัพย์สิน และความอุ่นใจในทุกการเดินทาง

เปรียบเทียบความต่างของการไม่มีประกันภัยรถยนต์ vs มีประกันภัยรถยนต์

ลองมาดูกันว่า ความแตกต่างระหว่างการไม่มีประกันภัยรถยนต์กับการทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ จะช่วยรองรับเหตุด่วนเหตุร้ายได้อย่างไรบ้าง 

ไม่มีประกันภัยรถยนต์

  • ขาดหลักประกันให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ต้องพึ่งพาตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด 
  • ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100% ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าชดเชยคู่กรณี
  • ขาดสภาพคล่องทางการเงินและความมั่นคงทางการเงิน หากเกิดเหตุใหญ่ อาจกระทบรายจ่ายในระยะยาว
  • ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้จากค่าใช้จ่ายด้านประกันภัยได้
  • ไม่มีทีมให้คำปรึกษาด้านกฎหมายหรือการเจรจาหลังเกิดเหตุ ต้องรับมือด้วยตนเองทั้งหมด

มีประกันภัยรถยนต์

  • ลดความเสี่ยงทางการเงินในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่
  • มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น รถยก บริการซ่อมฉุกเฉิน และจัดหารถสำหรับใช้งานในระหว่างที่รถของคุณซ่อมอยู่ในอู่  
  • มีบริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย กรณีเกิดข้อพิพาทหลังอุบัติเหตุ
  • คุ้มครองในกรณีรถถูกโจรกรรม ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ (ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัย)
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถทางไกลหรือขับในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย
ทำไมต้องทำประกันรถยนต์ ลดเสี่ยงจากเหตุไม่คาดฝันแค่วางแผน

เหตุผลน่ารู้ ว่าทำไมต้องทำประกันรถยนต์

ได้เห็นถึงความแตกต่างของการทำประกันภัยรถยนต์และไม่ได้ทำกันไปแล้ว แต่นอกจากจะได้รับความคุ้มครองที่กล่าวไปข้างต้น การทำประกันภัยรถยนต์ยังมีประโยชน์ในเรื่องเหล่านี้ 

1. อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอแม้คุณจะขับรถดีแค่ไหน

อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะความประมาทของผู้อื่นหรือเหตุสุดวิสัย และแม้ว่าคุณจะขับรถอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อยู่รอบตัวได้ การมีประกันภัยรถยนต์จึงเป็นเสมือนเกราะป้องกันที่ช่วยรองรับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล หรือการคุ้มครองคู่กรณี ประกันภัยรถยนต์ก็จะช่วยแบ่งเบาให้ผ่านวิกฤตไปได้ 

2. การทำประกันภัยรถยนต์ เปรียบเสมือนการวางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด

เบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ต้องจ่ายทุกปี เปรียบเสมือนการลงทุนเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ที่ให้ความคุ้มครองตามแผนประกันภัยที่คุณเลือกซื้อ แต่หากเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีประกันภัย ผู้ขับขี่จะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพียงลำพัง ในทางกลับกันหากมีการทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ ค่าใช้จ่ายเหล่านั้นจะถูกดูแลโดยบริษัทประกันภัย พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น รถยก บริการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และการดูแลหลังเกิดเหตุ

3. ประกันภัยรถยนต์มีหลายประเภท เลือกได้ตามงบและไลฟ์สไตล์

ไม่ว่าคุณจะใช้รถบ่อยแค่ไหน หรือมีงบจำกัดเพียงใด ก็สามารถเลือกแผนประกันภัยที่ตรงกับความต้องการได้ ตั้งแต่ประกันภัยชั้น 1 ที่ครอบคลุมทั้งรถคุณและคู่กรณี ไปจนถึงประกันภัยชั้น 2, 2+ หรือ 3 และ 3+ ที่คุ้มค่ากับรถที่ใช้งานน้อยหรือมีอายุการใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ ประกันภัยรถยนต์บางประเภทยังมีบริการเสริมให้เพิ่มเติม เช่น รถสำรองระหว่างซ่อม หรือคุ้มครองกรณีรถสูญหาย เรียกได้ว่าการมีประกันภัยรถยนต์ถือเป็นทางเลือกที่ให้ทั้งความยืดหยุ่นและตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

หากรถยนต์มี พ.ร.บ. อยู่แล้ว จำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์เพิ่มหรือไม่ ?

แม้รถทุกคันจะมี พ.ร.บ. ตามกฎหมาย แต่ความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. อาจไม่เพียงพอเมื่อต้องเผชิญกับอุบัติเหตุร้ายแรงหรือความเสียหายต่อตัวรถ การมีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจึงช่วยเสริมความคุ้มครองให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

เคล็ดลับในการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์

หากคุณกำลังพิจารณาเลือกซื้อแผนประกันภัยรถยนต์ นี่คือเคล็ดลับจาก MeeDee ที่จะช่วยให้คุณเลือกได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวเอง  

  • เลือกประเภทประกันภัยที่ตรงกับการใช้งาน : หากคุณใช้รถเป็นประจำและต้องการความคุ้มครองสูงสุด ให้เลือกประกันภัยชั้น 1 แต่หากรถมีอายุหรือใช้งานค่อนข้างน้อย อาจเลือกประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 3+ แทน
  • ตรวจสอบทุนประกันภัยและวงเงินคุ้มครอง : เลือกทุนประกันภัยให้เหมาะสมกับมูลค่ารถ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุมเมื่อเกิดเหตุ
  • เปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยกับบริษัทต่าง ๆ : อย่าลืมเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยจากบริษัทประกันภัยต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดกรมธรรม์ และบริการหลังการขาย เพื่อเลือกแผนประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด
  • เลือกบริษัทที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง : เพื่อความอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนน

มั่นใจทุกการเดินทาง ให้ MeeDee คอยดูแล

ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเหตุไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่คุณสามารถวางแผนรับมือได้ ด้วยประกันภัยรถยนต์จากบริษัทชั้นนำที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งอุบัติเหตุรถชน รถเสีย หรือเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน MeeDee พร้อมช่วยเหลือคุณทุกขั้นตอน

เพราะเราเป็นโบรกเกอร์ประกันภัยที่รวบรวมแผนประกันภัยรถยนต์เอาไว้อย่างหลากหลาย รองรับทุกงบประมาณและความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะต้องการความคุ้มครองแบบจัดเต็ม หรือเน้นความคุ้มค่า MeeDee มีทางเลือกที่ใช่ให้เสมอ เลือกดูรายละเอียดและเปรียบเทียบความคุ้มครองของประกันภัยแต่ละประเภทได้ที่ ประกันภัยรถยนต์ MeeDee 

Image
Image
Image

พูดคุยกับที่ปรึกษามืออาชีพที่คุณไว้วางใจ

ด้วยคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของเรา การเลือกสิ่งต่างๆ จึงไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน.

Section Icon

มีคำแนะนำเฉพาะสำหรับคุณ

รับคำแนะนำที่ตรงกับความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของคุณ

Section Icon

ให้คำตอบที่ชัดเจนและเจาะลึก

รับคำอธิบายที่ครอบคลุมและช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

Section Icon

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่คุณไว้วางใจ

รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงในวงการประกันภัย